อาวุธคู่กายและเพื่อนคู่ใจ: สร้างสรรค์ถ้อยคำให้มีชีวิต – การแข่งขันอ่านบทร้อยกรองภาษาอังกฤษ 2014
ในปี ค.ศ.1983 ณ สนามเด็กเล่นของโรงเรียนแห่งหนึ่งในแถบตะวันออกของกรุงลอนดอน อาจารย์ยื่นอุปกรณ์สองชนิดให้กับเด็กชายที่กำลังร้องไห้อยู่ อุปกรณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
“นี่คืออาวุธคู่กายของเธอ” อาจารย์บอก สิ่งที่เขาได้รับคือปากกา
แล้วอาจารย์ก็ยื่นสมุดโน้ตที่ว่างเปล่าให้ชาร์ลีพร้อมพูดว่า “และนี่คือเพื่อนคู่ใจ”
แม้ของที่ได้รับจะผิดไปจากสิ่งที่ชาร์ลีคาดหวัง แต่เขาก็ทำตามคำแนะนำของอาจารย์ ที่บอกให้ “เขียนเล่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อโรงเรียนสิ” ไม่นานกระดาษสีขาวก็ถูกแต้มด้วยความเกลียดชังและโกรธแค้น ชาร์ลีได้ตั้งชื่อสมุดโน้ตว่า “บันทึกแห่งความเจ็บปวด” ซึ่งเต็มไปด้วยวิธีจัดการสารพัดแบบกับเด็กเกเรที่มารังแกเขา เมื่อชาร์ลีถูกอันธพาลรวบตัวในสนามเด็กเล่นอีกครั้ง ในขณะที่เขาถูกเน็คไทรัดคอแน่นขึ้นและแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขารู้ดีว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่าง ต้องพูดอะไรซักอย่าง “ถ้านายมาแตะตัวฉันอีกละก็ ฉันจะขยี้นายให้เละเป็นโจ๊กเลย” คำพูดนี้ทำให้คู่กรณีตกใจอย่างยิ่งและไม่มารังควานชาร์ลีอีกเลย เมื่อนั้นเองที่เขาตระหนักว่าถ้าเขียนลงสมุดโน้ตไปเรื่อยๆและพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดก็จะไม่มีใครกล้ามารังแกเขาอีก นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาร์ลีจึงเขียนบทกลอนทุกวัน วันละบทในสมุดโน้ตคู่ใจของเขา จนวันนี้มีบทกลอนมากถึง 11,000 บท ทำให้บ้านเขาเต็มไปด้วย “เพื่อนคู่ใจ” มากมาย
กวีนิพนธ์ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความคิดของตนออกมาโดยทางคำพูด และยังเป็นแรงผลักดันชั้นดี ไมโครโฟนช่วยให้เด็กๆสามารถพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะกระซิบออกมาได้
ชาร์ลี ดาร์ค กวีนิพนธ์ชาวอังกฤษ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่าบทกวีเป็นเหมือนการแสดงออกชนิดหนึ่งของบุคคล ที่เปรียบเสมือน “ภาพยนตร์เงียบที่ฉายบนหน้าจอสีขาว” เขาสนับสนุนให้เด็กๆและเยาวชนใช้ประโยชน์จากภาษาในการปลุกถ้อยคำให้มีชีวิต ซึ่งนักเรียนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันอ่านบทร้อยกรองภาษาอังกฤษทั้ง 20 คน ล้วนนำแนวคิดนี้มาปรับใช้กับตัวเอง ชาร์ลีปรากฏตัวต่อหน้าผู้เข้าแข่งขันเป็นครั้งแรกในเวิร์คช็อปเพียงหนึ่งวันก่อนการแข่งขัน นักเรียนทุกคนจะได้รับโจทย์สำหรับบทกลอนของพวกเขา ซึ่งหัวข้อก็คือ “ตัวตนของคุณและสิ่งที่คุณต้องการให้ผู้คนจดจำ”
ภายในกรอบระยะเวลาที่กระชั้นชิดระหว่างวินาทีที่ได้รับหัวข้อให้แต่งบทกลอนของแต่ละคนกับวันแข่งขัน ได้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่าเยาวชนเค้นความคิดสร้างสรรค์ออกมาอย่างเต็มที่ ในวันแข่งขันจริงเราได้เห็นทั้งความกล้า แรงบันดาลใจ ความประหม่า และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันแรงกล้าที่เหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันแสดงออกมา ซึ่งความมั่นใจ ความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่นของเด็กๆได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความครึกครื้นและความกระตือรือร้น อิทธิพลจากการแข่งขันส่งผลต่อผู้คนในบริเวณนั้นอย่างชัดเจน แม้แต่หัวหน้าฝ่ายโปรแกรมภาษาอังกฤษ ไบรอัน สต็อท ยังเลียนแบบท่าทางของ DJ ด้วยความสนุกสนาน
ระดับภาษาอังกฤษของผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายนั้นน่าทึ่งมาก น้องกัน หนึ่งในนักเรียนผู้เข้าแข่งขันได้กล่าวเปิดบทกลอนของเธอด้วยคำพูดแสนสละสลวย “บทกวีนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยรอยเท้าของนกกระจอกท่ามกลางพื้นหิมะ ขอให้ทุกคนได้รับฟังก่อนที่มันจะละลายหายไป”
สิ่งที่ไม่ยั่งยืนอาจเป็นนิยามของความงดงาม แม้กิจกรรมครั้งนี้จะกลายเป็นอดีตในไม่ช้า แต่มันได้ตราตรึงลงในจิตใจของเยาวชนและผู้เข้าร่วมงานแล้ว โดยเฉพาะผู้ชนะเลิศ ซึ่งได้รับรางวัลที่หนึ่งคือตั๋วไปทัศนศึกษาที่ราชอาณาจักรเป็นเวลา 1 สัปดาห์ รวมไปถึงหนังสือมีคุณภาพและบัตรกำนัลมากมาย การแข่งขันครั้งนี้ถูกจัดโดยบริติช เคานซิล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการและสมาคมการพูดภาษาอังกฤษ
ชาร์ลี ดาร์ค อ่านบทกวีของตัวเองประกอบกับเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ จนสามารถดึงความสนใจจากผู้สัญจรไปมาได้เป็นจำนวนมาก ด้วยเทคนิคการอ่านวรรคต่อวรรคและการแสดงท่าทางประกอบ ทำให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมและพลอยเคลื่อนไหวตามไปด้วย การที่ผู้ชมดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังราวกับเป็นนักแสดงเสียเองเป็นภาพที่หาชมได้ยาก เราได้เห็นผู้เข้าแข่งขันทั้ง 20 คน รวมไปถึงแขกผู้มีเกียรติ เพื่อนๆและผู้ชมเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของบทกลอน ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจ ในวันนี้บทกวีนิพนธ์ได้ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตอย่างแท้จริง
นักเรียนแต่ละคนจะเปิดเผยลักษณะเฉพาะตัวนับตั้งแต่พวกเขาได้ก้าวขึ้นเวทีเพื่อดำเนินการแสดงบทกวีเกี่ยวกับตนเอง บางคนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ แต่บางคนก็ค่อยๆเดินทีละนิด หลายคนลืมบทที่เตรียมมาอย่างดี แต่ตั้งสติโดยการหายใจเข้าลึกๆ หัวเราะอย่างขัดเขิน แล้วเรียกความมั่นใจกลับคืนมา เด็กหนุ่มคนหนึ่งเมื่อลืมบทก็เต้นท่าทางประกอบไปสักครู่แล้วก็เอามือมานวดขมับตัวเองเพื่อเรียกความจำ อีกคนหนึ่งล้วงไปหยิบเศษกระดาษที่ถูกเปิดจนขาดวิ่นจากกระโปรง แล้วแก้ไขสถานการณ์ ทำให้สามารถแสดงต่อได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัล “The Best Improvement” เมื่อการแสดงของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเสร็จสิ้น ชาร์ลีจะให้คำแนะนำที่ดีเสมอ ซึ่งช่วยสร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้เด็กๆได้เป็นอย่างมาก
ชาร์ลีเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ให้เพียงเยาวชนเท่านั้น แต่การแสดงและคำพูดของเขาช่วยให้ทุกคนมีความหวังอย่างน่าอัศจรรย์
ตัวอย่างด้านล่างเป็นบทกลอนที่มาจากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
“ฉันแค่อยากให้ทุกคนเห็นตัวฉัน ไม่เหมือนกับหนังสือบนชั้นวางที่ชำรุด”
“บางครั้งฉันล้มลง แต่ฉันไม่เคยยอมแพ้ เปรียบเสมือนกระแสน้ำที่ไหลไม่เคยหยุด… เพียงเชื่อมั่นในตนเอง”
“ฉันฝันว่าฉันสามารถว่ายข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคได้ใน 1 นาที … ฉันเชื่อว่าเราสามารถเป็นได้ทุกสิ่งที่อยากเป็น”
“ถ้าจะเปรียบไปฉันก็เป็นเหมือนเม็ดทรายในทะเลที่กว้างใหญ่ ถึงเป็นเม็ดเล็กๆหากเมื่อเอามารวมกันก็จะเป็นหินก้อนใหญ่ จากเม็ดทรายไปสู่บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า… เป็นดั่งผีเสื้อที่เพิ่งออกมาจากรัง สักวันฉันจะบิน”
“ฉันเป็นฉลามร่างยักษ์ที่สามารถแหวกว่ายในมหาสมุทรที่อันตรายแต่แสนงดงาม… ฉันจะกระโจนขึ้นไปบนฟ้าเพื่อคว้าความฝันของตัวเอง”
ตอนนี้คุณกำลังต้องการ “อาวุธคู่กาย” และ “เพื่อนคู่ใจ” บ้างหรือเปล่า