หากเด็กวัยประถมศึกษา กำลังเรียนภาษาอังกฤษ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณต้องการช่วยเหลือเด็กๆ เมื่ออยู่บ้าน แต่นี่อาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้ปกครองหลายคน ตัวอย่างเช่น คุณอาจไม่มั่นใจในระดับภาษาอังกฤษหรือการออกเสียงของคุณ หรือคุณอาจกังวลว่าจะทำไม่ถูก
เราพร้อมช่วยคุณ! วิธีที่จะช่วยให้เด็กๆ ของคุณเรียนภาษาอังกฤษกับคุณได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพมีดังนี้
เหตุใดทัศนคติเชิงบวกของคุณจึงช่วยให้ลูกของคุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
การสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกๆ ของคุณที่บ้านจะช่วยเสริมการเรียนภาษาอังกฤษที่พวกเขาอาจเรียนอยู่แล้วที่โรงเรียน ทำให้พวกเขาเรียนรู้ในแบบที่เหมาะกับตัวเองยิ่งขึ้น
ไม่ต้องกังวลหากภาษาอังกฤษของคุณไม่สมบูรณ์แบบ การมีส่วนร่วมและความกระตือรือร้นของคุณมีความสำคัญมากในเวลาที่ต้องการให้ลูกของคุณสนใจเรียนภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับสำคัญ
-
รักษาทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ ลูกของคุณจะมีความกระตือรือร้นเท่าๆ กับคุณและตั้งตารอที่จะได้เรียนรู้กับคุณ
-
จัดตารางเวลาเพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกสัปดาห์เป็นประจำ การสร้างกิจวัตรให้เด็กๆ ของคุณตั้งตารอเป็นสิ่งสำคัญ
-
หากคุณไม่เข้าใจหรือไม่รู้จักภาษาอังกฤษบางคำ ให้ใช้โอกาสนี้ในการหาคำตอบด้วยกัน คุณสามารถพูดว่า 'เรามาหาคำตอบกันเถอะ เรามาทำแบบฝึกหัดเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของเราได้'
สร้างกิจวัตร
สร้างกิจวัตรหรือกำหนดเวลาสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่บ้าน การสร้างกิจวัตรช่วยให้การเรียนรู้ติดเป็นนิสัย การฝึกอ่านวลีหรือเพลงภาษาอังกฤษซ้ำๆ จะก่อให้เกิดเป็นกิจวัตรและเตือนให้ลูกของคุณรู้ว่า 'เวลาของการเรียนภาษาอังกฤษ' ได้เริ่มต้นแล้ว พยายามไม่ให้ใช้เวลานานเกินไป เพื่อให้ลูกของคุณตั้งใจและสนใจภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง
ในชั้นเรียน เราพบว่าเวลาประมาณ 15 นาทีนั้นเพียงพอแล้วสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ กับเด็กเล็ก คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชั้นเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กที่น่าสนใจของเราได้ที่นี่ https://britishcouncil.or.th/english-courses/kids-teens/primary-plus
เมื่อพูดถึงการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำทีละน้อยแต่บ่อยๆ จะดีกว่า! พยายามใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำตลอดทั้งวัน การกระทำดังกล่าวจะช่วยให้การเรียนรู้มีความหลากหลาย
บางทีคุณอาจลองเสนอการอ่านนิทานภาษาอังกฤษก่อนนอน หรือแม้กระทั่งร้องเพลงด้วยกันตอนอาบน้ำก็ได้ หากคุณอยากได้แรงบันดาลใจเพิ่มเติม โปรดดูที่มุมภาษาอังกฤษของครอบครัว Sanghera
จัดเวลาสำหรับนิทานภาษาอังกฤษ
การอ่านนิทานที่มีภาพวาดและรูปภาพที่ชัดเจนและมีสีสันเป็นวิธีที่ดีมากในการเสนอให้เด็กๆ เรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณยังได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแสนอบอุ่น และแชร์เรื่องราวกับลูกๆ ของคุณอีกด้วย
เด็กๆ สนุกกับการฟังนิทานที่พวกเขารู้อยู่แล้ว การอ่านนิทานครั้งแล้วครั้งเล่าจะทำให้ผู้ฟังมีความสุขแน่นอน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทบทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษและโครงสร้างประโยคในแบบที่คุ้นเคยและสนุกสนาน
เริ่มต้นด้วยการใช้วิธีโต้ตอบกันและให้กำลังใจบุตรหลานของคุณด้วยการถามคำถามง่ายๆ เกี่ยวกับรูปภาพ ยกตัวอย่างเช่น 'Where's the blue dog? (สุนัขสีฟ้าอยู่ที่ไหน)
เมื่อพูดซ้ำๆ เด็กจะค่อยๆ รู้สึกสบายใจขึ้นและอยากจะมีส่วนร่วมด้วยการพูดถึงบางส่วนของนิทานที่พวกเขาจำได้
นอกจากจะกระตุ้นจินตนาการแล้ว การอ่านนิทานออกเสียงช่วยให้เด็กเล็กพัฒนาทักษะการฟังที่สำคัญเมื่อได้ยินคำศัพท์และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอีกด้วย
ร้องเพลงและอ่านคำกลอนเป็นภาษาอังกฤษ
การร้องเพลงและอ่านคำกลอนให้กับลูกของคุณฟัง หรือร้องด้วยกันเป็นวิธีที่ง่ายและสนุกสนานสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การร้องเพลงกล่อมเด็กและเพลงต่างๆ ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนการเน้นเสียง จังหวะ การออกเสียง และรูปแบบน้ำเสียงในภาษาอังกฤษในรูปแบบที่สนุกสนาน
หลังจากฟังไม่กี่ครั้ง เด็กๆ จะเริ่มฮัมเพลงหรือร้องตามได้อย่างเป็นธรรมชาติ คุณสามารถใช้ตัวช่วยที่ทำให้เห็นภาพ เช่น วิดีโอแอนิเมชันหรือหุ่นเชิด เพื่อช่วยให้เด็กๆ เข้าใจได้มากขึ้น
ทำไมไม่ลองร้องเพลง A bear named Sue ไปกับลูกของคุณดูล่ะ คุณสามารถใช้ตุ๊กตาหมีตัวโปรดและสิ่งของบางอย่างที่กล่าวถึงในเพลงเพื่อช่วยให้คุณทั้งคู่จำคำศัพท์ได้
ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
แอปเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจ สมจริง และโต้ตอบได้สำหรับผู้เรียนทุกวัย คุณสามารถใช้แอปเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านภาษาได้
เด็กๆ ของคุณสามารถใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเพื่อเข้าถึงกิจกรรมต่างๆ ได้ พวกเขาสามารถฝึกคำศัพท์ การนับ และการออกเสียง ตลอดจนติดตามเรื่องราวและเกมแบบโต้ตอบได้ การเชื่อมโยงกิจกรรมเข้ากับหัวข้อการเรียนรู้และความสนใจของลูกของคุณจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น
หากต้องการฝึกฝนเรื่องตัวเลข สี รูปร่าง อาหาร สัตว์ สิ่งของในห้องเรียน ของเล่น และอื่นๆ โปรดดูแอปฟรีที่ LearnEnglish Kids Playtime
การดูและฟังคลิปง่ายๆ สั้นๆ ของการ์ตูนตัวโปรดและรายการภาษาอังกฤษที่ลูกของคุณชื่นชอบ เป็นวิธีที่ง่ายดายในการช่วยให้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษที่บ้าน ซึ่งช่วยให้เด็กได้ฟังการออกเสียงคำและวลีใหม่ๆ ที่เคยได้ยินภายในสภาพแวดล้อมของการ์ตูนที่คุ้นเคย
เล่นเกมและแฟลชการ์ด
เกมทำให้การเรียนรู้มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และได้มีส่วนร่วม แฟลชการ์ดสามารถใช้ในเกมมากมายได้ เช่น Memory, Snap! และ Kim’s game แฟลชการ์ดสามารถทำได้ง่ายๆ หากคุณมีอารมณ์ศิลปิน หรือคุณสามารถดาวน์โหลดแฟลชการ์ดสำเร็จรูปได้จาก LearnEnglish Kids
ดูครอบครัว Elliot เล่น Memory game (เกมทดสอบความจำ) โดยใช้แฟลชการ์ด หรือดูเกมโต้ตอบแบบต่างๆ มากมายได้บน LearnEnglish Kids website
อ่านเพิ่มเติมในบทความ 'เกมและกิจกรรมภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนวัยประถม' ของเรา
บูรณาการด้วยคำศัพท์และวลีภาษาอังกฤษ
เมื่อสอนภาษาอังกฤษให้ลูกของคุณที่บ้าน ให้มุ่งเน้นที่หัวข้อที่จุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของเขา ใช้วลีและคำศัพท์ที่พวกเขาคุ้นเคยในภาษาแม่
ในช่วงแรกของการสอนคำศัพท์ ให้ลองใช้หัวข้อต่อไปนี้:
-
อาหารและเครื่องดื่มที่เขาชอบ
-
ของเล่น
-
ตัวเลข 1–10, 10–20 ฯลฯ
-
สี
-
เสื้อผ้า
-
สัตว์ (สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม สัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง)
-
รูปทรง
-
คำคุณศัพท์ง่ายๆ: อารมณ์ อุณหภูมิ ขนาด ใหญ่กว่า เล็กกว่า
เด็กแต่ละคนมีความสนใจต่างกัน ดังนั้นลองใช้หัวข้อต่างๆ นี้ให้เป็นประโยชน์ คุณอาจค้นพบว่าลูกของคุณสนใจที่จะเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับ Batman หรือ Lego และคุณสามารถใช้โอกาสนี้ในการอ่านนิทานเกี่ยวกับ Batman เป็นภาษาอังกฤษหรือเขียนคำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสร้างตัวต่อ Lego
สื่อสารกับครูของลูก
หากลูกของคุณเข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ให้ลองพูดคุยกับครูประจำชั้นเกี่ยวกับเนื้อหาของหลักสูตรเป็นประจำ ครูอาจให้ภาพรวมของหัวข้อ เพลง นิทาน และคำศัพท์ที่เรียนในชั้นเรียนของลูกได้ คุณสามารถฝึกฝนสิ่งเหล่านี้ที่บ้านกับลูกเพื่อให้เข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น
ควรสอบถามผลความคืบหน้าของการเรียนภาษาอังกฤษของลูกคุณอยู่เสมอ หากมีด้านใดที่เขาทำได้ดีเป็นพิเศษ หรือหัวข้อที่เขาคิดว่ายาก คุณก็สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจในสิ่งที่ทำให้เขาสับสนได้ดียิ่งขึ้น คุณยังสามารถชมเชยเขาในสิ่งที่เขาถนัดได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เขาต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษต่อไป
คุณกำลังมองหาวิธีอื่นในการสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่บ้านที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้อยู่ใช่ไหม โปรดดูที่ How children learn (วิธีที่เด็กเรียนรู้)