เราใช้ ‘reported speech’ เมื่อไหร่ในชีวิตประจำวัน
เราจะใช้ ‘reported speech’ (หรือที่เรียกว่า indirect speech) เมื่อเราจำเป็นต้องบอกใครสักคนเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นพูด แต่ไม่ใช่การใช้คำพูดตรงๆ ของพวกเขา ซึ่งเหมือนกับการที่คุณรายงานสิ่งที่คนอื่นพูด แต่คุณกำลังพูดใหม่ในแบบของตัวเอง ตัวอย่างเช่น:
She said she was coming to class (เธอบอกว่าเธอกำลังจะมาที่ชั้นเรียน)
I told you earlier that I would not be able to come. (ก่อนหน้านี้ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันมาไม่ได้)
You said yesterday that you would help me! (เมื่อวานนี้คุณบอกว่าคุณจะช่วยฉัน)
‘reported speech’ มีกฎการใช้ในภาษาอังกฤษอย่างไรบ้าง
คุณจะสังเกตเห็นจุดแตกต่างสองจุดในตัวอย่างด้านล่างนี้:
Direct speech (การยกเอาคำพูดคนอื่นมาพูดแบบตรงๆ):
“I am happy to drive you to the airport.”
(ฉันยินดีที่จะขับรถไปส่งคุณที่สนามบิน)
Reported หรือ Indirect speech (การนำคำพูดของคนอื่นไปเล่าต่อ):
“She said she was happy to drive me to the airport.”
(เธอบอกว่าเธอยินดีที่จะขับรถไปส่งฉันที่สนามบิน)
-
คำสรรพนามจะเปลี่ยนไปตามบุคคลที่เป็นผู้พูด 2. รูปกริยาจะผันไปตามช่วงเวลาที่เรากำลังพูดถึง ซึ่งโดยปกติแล้ว รูปกริยาจะผันกลับไปเป็นช่วงอดีต ในตัวอย่างข้างต้น รูปกริยาจะผันจาก present simple (ปัจจุบันกาลธรรมดา) เป็น past simple (อดีตกาลธรรมดา)
แล้วเราจะแสดง ‘reported speech’ อย่างไร เมื่อคำนึงถึงการผันรูปกริยา ตารางด้านล่างนี้จะแสดงตัวอย่างประกอบ
ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติม ทำไมไม่ลองเข้าคอร์สภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ดูล่ะ คุณสามารถขอให้ครูผู้มีประสบการณ์แชร์ตัวอย่างให้ดูได้นะ ที่นี่เรามีคอร์สมากมายให้เรียนรู้ https://www.britishcouncil.or.th/english-courses/adults
Direct speech (present simple) |
Reported speech (past simple) |
I know what to do. |
She said she knew what to do. |
I don’t know what to do. |
She said she didn’t know what to do. |
Do you know what to do? |
She asked me if I knew what to do.* |
* ให้สังเกตการใช้คำว่า if ในประโยคคำถาม ใช่/ไม่ใช่ ที่เป็นการนำคำพูดของคนอื่นไปเล่าต่อ
Direct speech (Present Continuous) |
Reported speech (Past continuous) |
I’m working on it this week. |
He said he was working on it this week.* |
I’m not working on it this week. |
He said he wasn’t working on it this week. |
Are you working on it this week? |
He asked if I was working on it this week. |
*ดูการอ้างอิงถึงช่วงเวลาต่างๆ ที่ด้านล่าง
Direct speech (present perfect) |
Reported speech (past perfect) |
I’ve finished my lunch. |
She said she had finished her lunch. |
I haven’t finished my lunch. |
She said she had finished her lunch. |
Have you finished your lunch? |
She asked if I had finished my lunch. |
Direct speech (present perfect continuous) |
Reported speech (past perfect continuous) |
I’ve been listening to the news. |
He said he had been listening to the news. |
I haven’t been listening to the news. |
He said he hadn’t been listening to the news. (เขาบอกว่าเขายังไม่ได้กำลังฟังข่าวอยู่) |
Have you been listening to the news? |
He asked if I had been listening to the news. |
Direct speech (will) (จะ) |
Reported speech (would) (จะ) |
I’ll finish the report in time. |
She said she would finish the report on time. |
I won’t finish the report on time. |
She said she wouldn’t finish the report on time. |
Will you finish the report in time? |
She asked if I would finish the report on time. (เธอถามว่าฉันจะทำรายงานเสร็จทันเวลาหรือเปล่า) |
Direct speech (past simple) (อดีตกาลธรรมดา) |
Reported speech (past perfect) (อดีตกาลสมบูรณ์) |
I did the training at the same time as Carol. |
She said she had done the training at the same time as Carol. |
I didn’t do the training at the same time as Carol. |
She said she hadn’t done the training at the same time as Carol. |
Did you do the training at the same time as Carol. (คุณได้ฝึกอบรมพร้อมกับ Carol หรือเปล่า) |
She asked if I had done the training at the same time as Carol. |
Direct speech (past continuous) |
Reported speech (past perfect continuous) |
I was staying at my sister’s place. |
He said he had been staying at his sister’s place. |
I wasn’t staying at my sister’s place. |
He said he hadn’t been staying at his sister’s place. |
Were you staying at your sister’s place? |
He asked if I had been staying at my sister’s place |
วิธีใช้ ‘reported speech’ ใน Past Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ
จะไม่มีการผันรูปใน Tense (กาล) ได้หากคำพูดต้นฉบับอยู่ในรูป Past Perfect เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก แต่จะมีการผันรูปเฉพาะบุรุษสรรพนามเท่านั้นดังนี้
I had already left when you arrived. (ฉันได้ออกไปแล้วเมื่อคุณมาถึง)
She said she had already left when I arrived. (เธอบอกว่าเธอได้ออกไปแล้วเมื่อฉันมาถึง)
แล้วถ้า ‘reported speech’ เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งล่ะ
บางที ‘reported speech’ อาจจะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ ซึ่งอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาเช่นกัน โปรดดูตัวอย่างเหล่านี้;
I’ll do it today. |
She said she would do it that day.* (เธอบอกว่าเธอจะทำมันในวันนั้น) |
I’ll do it this week. (ฉันจะทำมันสัปดาห์นี้) |
He said he would do it that week. (เขาบอกว่าเขาจะทำมันในสัปดาห์นั้น) |
I’ll do it tomorrow. (ฉันจะทำมันพรุ่งนี้) |
She said she would do it the next day. (เธอบอกว่าเธอจะทำมันในวันถัดไป) or (หรือ) She said she would do it the following day. (เธอบอกว่าเธอจะทำมันในวันถัดมา) |
I’ll do it next week. (ฉันจะทำมันสัปดาห์หน้า) |
He said he would do it the next week. (เขาบอกว่าเขาจะทำมันในสัปดาห์ถัดไป) or (หรือ) He said he would do it the following week. (เขาบอกว่าเขาจะทำมันในสัปดาห์ถัดมา) |
I did it yesterday. (ฉันทำมันแล้วเมื่อวานนี้) |
She said she had done it the day before. (เธอบอกว่าเธอทำมันไปแล้วเมื่อวันก่อน) |
I did it last week. (ฉันทำมันสัปดาห์ที่แล้ว) |
He said he had done it the previous week. (เขาบอกว่าเขาทำมันไปแล้วในสัปดาห์ก่อน) |
I’m not available now. (ฉันไม่ว่างตอนนี้) |
She said she wasn’t available at the time. (เธอบอกว่าเธอไม่ว่างในตอนนั้น) |
I’ve never been here before. (ฉันไม่เคยมาที่นี่มาก่อน) |
He said he had never been there before. (เขาบอกว่าเขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน) |
*ถ้าช่วงเวลาหรือสถานที่ยังคงเหมือนเดิมกับตอนนี้ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ตัวอย่างเช่น คุณกำลังรายงานในวันนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เพื่อนของคุณต้องทำในวันนี้เช่นกัน
I’ll do it today (ฉันจะทำมันวันนี้)
She said she would do it today. (เธอบอกว่าเธอจะทำมันวันนี้)
ข้อยกเว้นในการใช้ ‘reported speech’ ในภาษาอังกฤษ เช่น กริยาช่วย
การใช้กริยาช่วยกับ ‘reported speech’
อาจจะยากสักหน่อยในการปรับกริยาช่วยให้เข้ากับเวลาในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “รูปอดีต” ของกริยาช่วยหลายตัวมักใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยปกติจะใช้เพื่อความสุภาพหรือในสถานการณ์สมมติ สำหรับเจ้าของภาษาแล้ว กริยาช่วยฟังดูไม่ก้าวร้าวและมีความสุภาพมากกว่า
I will be a bit late. (ฉันจะมาช้าหน่อยนะ) |
He said he would be a bit late (เขาบอกว่าเขาจะมาช้าหน่อยนะ) |
I can help you with the party. (ฉันสามารถช่วยคุณจัดงานปาร์ตี้ได้) |
She said she could help me with the party. (เธอบอกว่าเธอสามารถช่วยฉันจัดงานปาร์ตี้ได้) |
You must be at the station by 10:00 (คุณต้องถึงสถานีให้ได้ภายใน 10:00 น.) |
He said I had to be at the station by 10:00 (เขาบอกว่าฉันต้องถึงสถานีให้ได้ภายใน 10:00 น.) |
Shall we leave? (เราจะออกไปดีไหม) |
She asked if they should leave. (เธอถามว่าพวกเขาควรออกไปหรือเปล่า) |
Would you like a coffee? (คุณต้องการกาแฟสักถ้วยไหม) |
He asked if I would like a coffee. (เขาถามว่าฉันต้องการกาแฟสักถ้วยไหม) |
Could I leave early today? (วันนี้ฉันขอออกก่อนเวลาได้ไหม) |
She asked if she could leave early today (เธอถามว่าวันนี้เธอขอออกก่อนเวลาได้หรือเปล่า) |
Should I call head office? (ฉันควรโทรไปที่สำนักงานใหญ่ไหม) |
She asked if she should call head office. (เธอถามว่าเธอควรโทรไปที่สำนักงานใหญ่ไหม) |
วิธีการใช้ ‘reported speech’ โดยยังคงอยู่ในรูปปัจจุบัน
ในภาษาอังกฤษ เรามักคงกริยาไว้ในรูปปัจจุบันหากข้อความนั้นยังคงเป็นจริงอยู่ ตัวอย่างเช่น:
She has a headache. (เธอปวดหัว)
I told you she has a headache! (ฉันบอกคุณแล้วว่าเธอปวดหัว)
(5 นาทีต่อมา ถ้าอีกฝ่ายยังคงขึ้นเสียงอยู่นะ)
I’m staying at my mother’s. (ฉันพักอยู่ที่บ้านแม่)
He said he is staying at his mother’s. (เขาบอกว่าเขากำลังพักอยู่ที่บ้านแม่)
(ถ้าเขายังคงพักอยู่ที่บ้านแม่ของเขาในตอนนี้นะ)
I love chocolate. (ฉันชอบช็อกโกแลต)
She said she loves chocolate (เธอบอกว่าเธอชอบช็อกโกแลต)
(เราสามารถถือได้ว่านี่เป็นคำพูดที่เป็นจริงตลอดไป)
วิธีใช้ Said และ Told ใน ‘reported speech’ ในภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างทั้งหมดข้างต้นใช้ said, หรือ asked สำหรับคำถาม แต่ถ้าเราต้องการระบุบุคคลที่กล่าวถึง เรามักจะใช้คำว่า told:
I’ll be at work early. (ฉันจะไปที่ทำงานแต่เช้า)
She said to me that she would be at work early. (เธอบอกฉันว่าเธอจะไปที่ทำงานแต่เช้า)
ข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ที่พบได้บ่อยในการใช้ ‘reported speech’ ในภาษาอังกฤษ
กริยาก่อนประธาน
ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยเมื่อนำคำพูดของคนอื่นไปเล่าต่อในประโยคคำถามคือการวางสลับตำแหน่งกริยากับประธานดังนี้
She asked did I know what to do. (เธอถามว่ารู้ฉันไหมว่าต้องทำอะไร) x
แต่ในความเป็นจริง ‘reported speech’ เป็นประโยคบอกเล่า จึงควรใช้ลำดับประธาน-กริยาดังนี้
She asked if I knew what to do. ✓
นี่เป็นข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยในคำถามประเภท what, where, when ด้วยเช่นกัน:
He asked where was the exit. (เขาถามว่าที่ไหนคือทางออก) x
He asked where the exit was. (เขาถามว่าทางออกอยู่ที่ไหน) ✓
การใช้ Said แทน Told
อีกข้อผิดพลาดหนึ่งที่พบได้บ่อยคือความสับสนระหว่าง said และ told, นักเรียนวัยผู้ใหญ่ที่เรียนภาษาอังกฤษมักจะพูดประโยคแบบนี้
She said me she was coming. x
แทนที่จะพูดว่า
She told me she was coming. ✓
ตัวอย่างการใช้ ‘reported speech’ ในเพลงภาษาอังกฤษ
รู้จักเพลงของวง The Killers ที่ชื่อว่า “ ไหม มีท่อนหนึ่งร้องว่า
Well, somebody told me you had a boyfriend (เอ่อ มีคนบอกฉันว่าคุณมีแฟน)
Who looked like a girlfriend (ที่หน้าตาเหมือนกับแฟนสาว)
That I had in February of last year (ซึ่งฉันเคยคบในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อปีที่แล้ว)
แบบทดสอบย่อย
หาจุดผิดในประโยคทั้งห้านี้ แล้วเลื่อนลงไปดูคำตอบ
-
He asked how was the meeting.
-
She told to me the answers.
-
They asked us had we seen the accident.
-
She asked what was our homework.
-
Somebody said me you had a boyfriend who looked like a girlfriend that I had in February of last year
Answers
-
He asked how the meeting was.
-
She told me the answers.
-
They asked us if we had seen the accident.
-
She asked what our homework was.
-
Somebody told me you had a boyfriend who looked like a girlfriend that I had in February of last year