How well can you speak English? (คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งแค่ไหน)
อาจเคยมีคนถามคำถามนี้กับคุณมาก่อนใช่ไหม หรือไม่ก็เคยถามคำถามนี้กับตัวเอง! เราใช้คำกริยา 'can' ในภาษาอังกฤษเพื่อพูดถึงความสามารถ คำนี้มักเป็นหนึ่งในคำกริยาแรกๆ ที่เราได้เรียนรู้ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ ในบทความบล็อกนี้ เราจะมาดูว่าคุณสามารถใช้คำว่า can ในการสนทนาภาษาอังกฤษเมื่อใดและอย่างไร
เราใช้ ‘Can’ เมื่อใด
Can เป็นกริยาช่วย เช่นเดียวกับกริยาช่วยตัวอื่นๆ คำนี้ก็ใช้งานได้หลายแบบ การใช้งานแบบที่พบบ่อยที่สุดก็คือ เมื่อเราพูดถึงความสามารถทั่วไป
I can count to 30 in Russian. (ฉันสามารถนับเลขถึง 30 เป็นภาษารัสเซีย)
Daniela can swim 100 lengths of the pool. (Daniela สามารถว่ายน้ำในสระได้ 100 รอบ)
รูปปฏิเสธของ can is cannot or can't
I can't speak French at all. (ฉันไม่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้เลย)
Ali can't play the piano. (Ali เล่นเปียโนไม่เป็น)
Jenny can't bake cakes. (Jenny อบเค้กไม่เป็น)
วิธีใช้ 'Can' เพื่อขออนุญาต
เรายังใช้คำว่า can เพื่อขออนุญาตหรือให้อนุญาต
Can I have another piece of cake please?
My son can stay out until 12 tonight.
เพื่อให้ฟังดูสุภาพหรือเป็นทางการมากขึ้น เราสามารถใช้ 'may' แทนได้ในเรื่องนี้:
May I have a coffee please?
และคำตรงกันข้ามก็คือ can't
You can't go to the park until you finish your homework.
He can't come in, because he's not invited.
ข้อเสนอและคำขอ
เรายังใช้ 'can' เมื่อเราเสนอบางสิ่งให้:
Can I help you with your bag?
Can I get you another cake?
เรายังสามารถใช้ 'can' เพื่อขอร้องได้อีกด้วย
Can you open the window please?
Can you come here for a minute?
โปรดทราบว่า หากคุณต้องการแสดงความสุภาพมากขึ้น คุณสามารถใช้ 'could' แทนคำว่า can ในการเสนอบางสิ่งและขอร้องให้ทำบางอย่าง คำว่า could มักจะฟังดูอ่อนน้อมกว่าในภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงรู้สึกสุภาพกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ
Could you come here for a minute?
Could I get you a drink?
การใช้ 'Can' เพื่อกล่าวถึงความจริงที่ทราบกันโดยทั่วไป
Can ยังใช้ในการพูดถึงสิ่งที่มักจะเป็นความจริง แต่อาจไม่จริงเสมอไป
Too much time in front of a screen can lead to loneliness
Studying too hard can be a problem for young people.
กฎสำหรับการใช้ Can ในภาษาอังกฤษมีอะไรบ้าง
เนื่องจากเป็นกริยาช่วย คำว่า can จึงผันไม่เหมือนคำกริยาปกติ คำนี้มีเพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ใช้งานง่าย แต่ก็หมายความว่าเราต้องใช้รูปคำกริยาอื่นแทนเพื่อพูดถึงอดีตหรืออนาคต หรือใช้ infinitive (กริยาที่ไม่ผัน) ในกรณีเหล่านี้ เราจะใช้คำว่า 'be able to' แทน ยกตัวอย่างเช่น:
I think I can unlock the door with this key (Present)
I was able to unlock the door with the key (past - talking about a specific event)
In the future I will be able to speak English fluently (Future)
I would love to be able to write beautiful poetry. (infinitive)
รูปปฏิเสธของ canคือ can't หรือ cannot รูปที่ใช้บ่อยที่สุดคือ can't แต่ถ้าเราต้องการเน้นเป็นพิเศษ เราอาจใช้รูปเต็มได้ ลองเปรียบเทียบดู:
She can't tell you what to do!
She cannot tell you what to do! (คนฟังจะรู้สึกว่ามีการเน้นย้ำมากกว่า)
เราตั้งคำถามได้โดยใช้โครงสร้าง can + ประธาน:
Can Jodie come to the party?
Can you see the board OK?
ข้อยกเว้นในการใช้ 'can' หรือ 'could'
บางครั้ง could ก็ใช้แทน can ได้เมื่อเราต้องการพูดแบบเป็นทางการหรือสุภาพมากขึ้น แต่ could คือรูปอดีตของ can เมื่อเราพูดถึงความสามารถทั่วไป ดูประโยคเหล่านี้:
When I was at university I could choose to study three languages.
I could read music much better when I was younger.
ทั้งสองประโยคจะบอกเป็นนัยว่าคุณไม่มีความสามารถหรือตัวเลือกเหล่านี้อีกต่อไป
แม้ว่าเราจะใช้ could เพื่อพูดถึงความสามารถทั่วไปในอดีตได้ แต่เราใช้รูปปฏิเสธ couldn't เพื่อพูดถึงความสามารถทั่วไปในอดีต "และ" สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เราก็สามารถใช้ 'be able to' ได้ ดังนั้นทั้งสามประโยคนี้จึงใช้ได้ทั้งหมด:
When he was a child he couldn't play any instruments.
John couldn't fix his computer, so he's taken it to a shop.
John wasn't able to fix his computer, so he's taken it to a shop.
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเมื่อใช้ 'can' ในภาษาอังกฤษ
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมากข้อหนึ่งก็คือการใช้ can ตามด้วย to infinitve แต่จะทำเช่นนี้ไม่ได้ เหมือนกับเวลาใช้กริยาช่วยตัวอื่นๆ เพราะกริยาช่วยจะตามด้วย infinitive เฉยๆ (ซึ่งหมายถึง infinitive ที่ไม่มี 'to') เสมอ
I can't to go to the party, because I don't feel well. (ฉันไปงานปาร์ตี้ไม่ได้ เพราะฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย) ✗
I can't go to the party, because I don't feel well. (ฉันไปงานปาร์ตี้ไม่ได้ เพราะฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย) ✓
นักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษมักจะลืมว่า 'can' ไม่มีรูปอนาคต และพวกเขาก็จะใช้ 'will can' (ซึ่งไม่ถูกต้อง!)
In the future I will can drive. (ในอนาคต ฉันจะสามารถขับรถได้) ✗
In the future I will be able to drive. (ฉันจะขับรถเป็นในอนาคต) ✓
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยอีกข้อหนึ่งก็คือการใช้ could และ be able to ผิดเมื่อพูดถึงเรื่องในอดีต อย่าลืมถามตัวเองว่าคุณต้องการพูดถึงความสามารถหรือทักษะทั่วไป หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เช่น การติดอยู่ในลิฟต์
After half an hour of being stuck inside, George could open the lift door. (หลังจากติดอยู่ในลิฟต์นานถึงครึ่งชั่วโมง George ก็สามารถเปิดประตูลิฟต์ได้สำเร็จ) ✗
After half an hour of being stuck inside, George was able to open the lift door. (หลังจากติดอยู่ในลิฟต์นานถึงครึ่งชั่วโมง George ก็เปิดประตูลิฟต์ได้สำเร็จ) ✓
เพลงดังที่ใช้ 'can' ในเนื้อเพลง
Can You Ever Forgive Me? เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าคอมเมดี้จากปี 2018 ที่เล่าเรื่องราวของนักเขียนที่ผิดหวังกับชีวิตและวางแผนจะหาเงิน Melissa McCarthy ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้
The Beatles แต่งเพลงเกี่ยวกับคนสองคนที่พยายามปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้มากขึ้น We Can Work It Out โด่งดังเป็นพลุแตกในปี 1965 เพราะเพลงสอนว่าเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการรับฟังซึ่งกันและกันมากขึ้น
เพลงที่ติดหูสุดๆ อย่าง Can't Stop the Feeling ของ Justin Timberlake เดิมเป็นเพลงซาวด์แทร็กของภาพยนตร์ดังเรื่อง Trolls เขาไม่สามารถหยุดความรู้สึก (หรือการเต้น ซึ่งเห็นได้จากในวิดีโอ!)
Mini quiz
ค้นหาและแก้ไขจุดผิดในประโยคเหล่านี้
1. Did you can play a musical instrument when you were at school?
2. Marta can to come to the meeting on Thursday.
3. I got up early yesterday and I could finish my project on time.
4. May you open the window please?
5. You need to ask your parents if you are able to stay out until midnight tomorrow.
Answers
1. Could you play a musical instrument when you were at school?
2. Marta can come to the meeting on Thursday.
3. I got up early yesterday and I was able to finish my project on time.
4. Can you open the window please?
5. You need to ask your parents if you can stay out until midnight tomorrow.