By Tracey

14 Feb 2025 - 15:35

Child learns to write, in English classes for kids at the British Council Thailand

เด็กๆ เริ่มต้นเส้นทางเรียนรู้การเขียนมานาน ก่อนที่จะเขียนตัวอักษรแรกหรือคำแรก ในฐานะผู้ปกครอง การมีความเข้าใจพื้นฐานว่าลูกๆ ของเราเรียนรู้การเขียนอย่างไรนั้นย่อมเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขากำลังเรียนรู้ที่จะเขียนภาษาอังกฤษ  

เมื่อเราเขียนคำต่างๆ เรากำลังถ่ายทอดความคิดของเราออกมาให้เห็น แต่เด็กๆ ยังแสดงความคิดของตนออกมาในการเล่นเกม หรือโดยการเต้นและร้องเพลงอีกด้วย หรืออาจใช้การระบายสีหรือวาดภาพ เมื่อเด็กเล็กๆ แสดงออกถึงประสบการณ์และความคิดของตนเองด้วยวิธีเหล่านี้ พวกเขากำลังพัฒนาการคิดเชิงนามธรรม ซึ่งเป็นความสามารถในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ ท้ายที่สุด การคิดเชิงนามธรรมยังช่วยให้ลูกๆ ของคุณเรียนรู้การเขียนได้เช่นกัน 

ลูกๆ ของคุณเปลี่ยนจากรูปธรรมไปสู่นามธรรมได้อย่างไร 

ภาษาเป็นวิธีที่เราใช้ความคิดเชิงนามธรรมเพื่อแสดงออกถึงประสบการณ์และความคิด ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเห็นแมว เราสามารถอธิบายได้ว่านั่นคือแมว เราไม่ต้องพูดว่า "สัตว์ขนปุยสี่ขา" เราได้เรียนรู้แล้วว่าคำว่า "แมว" หมายถึงสัตว์ขนปุยตัวนี้   

ภาษาช่วยให้เราสามารถสื่อสารความคิดได้ เราสามารถพูดถึงแมวได้แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น เราสามารถเขียนได้ว่าแมวทำอะไรเมื่อสัปดาห์ก่อนหรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับแมว หรือเราสามารถฟังเพื่อนเล่าเรื่องแมวซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้ 

เมื่อเด็กเล็กๆ เห็นเจ้าขนปุยนั่งอยู่บนรั้ว ก็อาจแสดงออกให้เห็นโดยการทำท่าทางเป็นแมวหรือวาดรูปแมว เด็กอาจพูดคำว่า 'แมว' สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการใช้การคิดเชิงนามธรรมเพื่อแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรม  

4 ขั้นตอนเพื่อเรียนรู้การเขียน 

ในการเรียนรู้การเขียนนั้น เด็กๆ จะใช้ตัวอักษรเพื่อแทนเสียงที่ได้ยินเป็นคำ ซึ่งหมายความว่าเด็กๆ ต้องมีพื้นฐานการพูดภาษาอังกฤษที่ดีก่อนที่จะเริ่มการเขียน เด็กๆ ต้องรู้วิธีการออกเสียงคำภาษาอังกฤษก่อนจึงจะเขียนได้ ขั้นตอนเรียนรู้การเขียนมีลักษณะดังนี้: 

  • ขั้นตอนที่ 1 การสังเกตเห็น: ลูกของคุณเห็นเจ้าขนปุยบนรั้ว มันคือตัวอะไร 
  • ขั้นตอนที่ 2 การกระทำ: ลูกของคุณจะพยายามแสดงให้เห็นถึงเจ้าขนปุยด้วยวิธีต่างๆ (เต้น วาดภาพ ปั้น แสดงท่าทาง ระบายสี) 
  • ขั้นตอนที่ 3 การฟัง: ลูกของคุณได้ยินคนพูดถึงเจ้าขนปุยนี้โดยใช้คำพูด /kæt/ เด็กๆ เริ่มเข้าใจว่าสามารถใช้คำว่า 'cat' เพื่อเรียกเจ้าขนปุยนี้ได้ 
  • ขั้นตอนที่ 4. การอ่านและการเขียน: ลูกของคุณเริ่มเข้าใจว่าตัวอักษร c-a-t จะใช้แทนเสียงในคำภาษาอังกฤษ /kæt/  

เรามักจะผลักดันให้ลูกๆ ของเราเริ่มต้นการเขียน แต่อย่างที่คุณเห็น การเขียนเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการ อย่าตัดขั้นตอนที่ 2 และ 3 ออก หากคุณกำลังสอนลูกๆ ให้เขียนอยู่ ขั้นตอนเหล่านี้สำคัญมากเนื่องจากสอดคล้องกับพัฒนาการทางความคิดของลูกคุณ 

สิ่งที่คุณคาดหวังสมเหตุสมผลหรือไม่ 

เมื่อคุณเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้การเขียน คุณก็จะตั้งความหวังได้เหมาะสมกับพัฒนาการแต่ละขั้นของเด็กๆ หากลูกของคุณยังเล็กมากๆ พวกเขายังคงพัฒนาด้านการคิดเชิงนามธรรมอยู่ เพราะฉะนั้นการให้เด็กๆ คัดตัวอักษรเพื่อ 'สอน' ให้เขียนจึงไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะกับเด็กที่เพิ่งจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากเด็กเล็กๆ ยังไม่ได้เริ่มต้นการเขียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียน พวกเขากำลังสร้างรากฐานที่จำเป็นในการเรียนรู้วิธีสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี 

เคล็ดลับเพื่อช่วยลูกๆ ของคุณพัฒนาการอ่านเขียนภาษาอังกฤษ 

ในการเรียนรู้ภาษาใหม่ เด็กเล็กๆ ต้องใช้เวลาในการซึมซับภาษา เด็กๆ จะเรียนรู้การเขียนภาษาอังกฤษโดยการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ภาษาบ่อยๆ เช่น เพลง คำคล้องจอง และนิทาน เมื่อได้อยู่กับภาษาใหม่อย่างต่อเนื่อง เด็กๆ จะเริ่มใช้ภาษาใหม่เพื่อสื่อถึงสิ่งต่างๆ ด้วยการพูดและการเขียน วิธีที่จะช่วยลูกๆ ของคุณพัฒนาความสนใจในการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษมีดังนี้: 

  • อ่านนิทานภาษาอังกฤษเยอะๆ ด้วยกัน นิทานสำหรับเด็กมักใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและมีความหมาย รวมถึงมีคำคล้องจองที่ติดหู ลองดูที่นี่สำหรับตัวเลือกหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับเด็กวัยประถมศึกษา  
  • เล่นเกมภาษาอังกฤษด้วยกัน คุณสามารถดูตัวอย่างมากมายใน LearnEnglish Kids 
  • ร้องเพลงภาษาอังกฤษและคำคล้องจองสำหรับเด็ก ให้ลูกของคุณได้ซึมซับภาษาอังกฤษผ่านเพลงและคำคล้องจอง Learn English Kids ของ British Council เป็นเว็บไซต์ฟรีที่มีเพลงมากมายเพื่อช่วยคุณในการเริ่มต้น 
  • เต้นไปรอบๆ ห้องด้วยกัน คุณอาจสงสัยว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเขียนภาษาอังกฤษใช่ไหม ทักษะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อที่เด็กๆ พัฒนาจากการเต้นและการเคลื่อนที่ ได้แก่ การทำงานประสานกันของร่างกายและการทรงตัว สิ่งเหล่านี้เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับทักษะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ลูกของคุณต้องใช้ในการจับดินสอและเขียนเป็นเส้นตรง ท่วงท่าที่ถูกต้องยังช่วยให้ลูกของคุณนั่งสบายที่โต๊ะในห้องเรียนในอนาคต ลองดูเพลงนี้พร้อมท่าเต้นเพื่อเป็น ​​แรงบันดาลใจ    
  • ให้ลูกของคุณมีเวลาเล่นสนุก เด็กๆ จะเริ่มพัฒนาทักษะการคิดเชิงนามธรรมระหว่างการเล่นสมมติ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเรียนรู้ ​​ภาษา 
  • ทำงานศิลปะและงานฝีมือด้วยกัน วิธีนี้เป็น อีกวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์ในการพัฒนาทักษะการเขียนในอนาคต เด็กๆ พัฒนาทักษะการคิดเชิงนามธรรมโดยการแสดงออกถึงความคิดและประสบการณ์ของตนผ่านงานศิลปะและงานฝีมือ และยังพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็กในขณะที่ตัด แปะ วาดรูป และจับเครื่องมืออีกด้วย สิ่งนี้ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาการทักษะในการควบคุมกล้ามเนื้อที่จำเป็นในการจับดินสอเพื่อเขียนตัวอักษรและคำ 
  • แสดงให้ลูกของคุณเห็นว่าการอ่านและการเขียนมีความสำคัญและประโยชน์ในชีวิตประจำวันของคุณอย่างไร ลองเขียนรายการของที่จะซื้อเป็นภาษาอังกฤษด้วยกัน ไม่ต้องกังวลหากลูกๆ ของคุณยังเขียนตัวอักษรหรือคำไม่ได้ คุณอาจเขียนรายการของที่จะซื้อตามคำบอกของเด็กๆ ก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจว่าการเขียนสิ่งต่างๆ และการอ่านนั้นมีความสำคัญ แสดงให้เด็กๆ เห็นว่าคุณอ่านรายการของที่จะซื้อในตลาดอย่างไร และซื้ออาหารที่พวกเขาชื่นชอบ 
  • ออกเสียงคำง่ายๆโดยใช้ลูกบอล ผลัดกันโยนและรับลูกบอล ขณะที่เล่น ให้ออกเสียงตัวอักษรของคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ เช่น: d-o-g, p-i-g, d-u-ck, e-g-g, b-e-d, c-u-p, b-o-o-k, เป็นต้น หากคุณไม่แน่ใจเรื่องการออกเสียงตัวอักษรเหล่านั้นในภาษาอังกฤษ ให้ดาวน์โหลด แอปแผนภูมิสัทศาสตร์ฟรี จากเว็บไซต์ British Council's Learn English 
  • ทำให้การสร้างตัวอักษรและคำในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ผลัดกันเขียนตัวอักษรบนหลังของแต่ละฝ่ายแล้วทายว่าเป็นตัวอะไร ลากเส้นและวาดตัวอักษรและคำบนทรายที่ชายหาด วาดเส้นหรือตัวอักษรบนผนังห้องน้ำโดยใช้สบู่และฟองสบู่, ฉีดครีมโกนหนวดลงในถาดแล้ววาดเส้นหยักเส้น เส้นซิกแซก หรือตัวอักษรลงไป ให้ลูกๆ ของคุณวาดภาพ เส้น ตัวอักษร และคำบนกระจกรถที่เป็นฝ้า สร้างตัวอักษรด้วยพาสต้า ข้าว กิ่งไม้ หรือผ้าสี  

เส้นทางเรียนรู้การเขียนของลูกอาจดูเหมือนยาวไกล แต่อย่าด่วนเร่งรีบเพื่อให้พวกเขาไปถึงจุดหมายก่อนเวลาอันเหมาะสม จงเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ระหว่างทาง เพราะการเดินทางนี้น่าตื่นเต้น