สหราชอาณาจักรเปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกให้แก่นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย วิศวกรเป็นอาชีพที่มีตัวเลือกในการทำงานที่หลากหลาย มีความท้าทาย พร้อมทั้งมีค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ตำแหน่งงานรองรับในด้านวิศวกรรมนั้นมีกว่าหลายพันรายการ ได้แก่ ด้านการออกแบบ การผลิต การพัฒนา การวิจัย และการจัดการการปฏิบัติงาน โดยงานด้านวิศวกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวันของผู้คน เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ การสื่อสารเคลื่อนที่และดิจิทัล รวมถึงระบบการขนส่ง การเฟ้นหาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมนั้นถือเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการพิจารณาวางเป้าหมายอาชีพในอนาคตที่สอดคล้องกับสาขาที่ท่านสนใจ จากรายงานด้านวิศวกรรมศาสตร์ในสหราชอาณาจักรพบว่าทั่วโลกยังคงมีความต้องการวิศวกรในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในปี พ.ศ. 2558 อุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมในสหราชอาณาจักรได้สร้างรายได้คิดเป็นหนึ่งในสี่ของ GDP ประเทศ (420.5 พันล้านปอนด์) ซึ่งหมายความว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพิจารณาเลือกอาชีพวิศวกรและศึกษาด้านวิศวกรรมในสหราชอาณาจักร
ปูทางสู่ความสำเร็จในอาชีพด้านวิศวกรรมด้วยการสนับสนุนจากคณาจารย์ชั้นยอด
มหาวิทยาลัยบรูเนล ลอนดอน (Brunel University London) ให้ความสำคัญกับความใฝ่เรียนใฝ่รู้และความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษามาโดยตลอด ในฐานะหนึ่งในคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในสหราชอาณาจักร หัวใจสำคัญของทุกหลักสูตรของที่นี่คือโอกาสในการฝึกงานและการพัฒนาทางวิชาชีพ มหาวิทยาลัยมีติวเตอร์ด้านการสมัครเข้าฝึกงานโดยเฉพาะ จากศูนย์พัฒนาวิชาชีพของบรูเนลที่พร้อมให้ความช่วยเหลือนักศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มเตรียมประวัติส่วนตัว (CV) เข้ารับการสัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งนักศึกษาฝึกงานแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ติวเตอร์ยังสามารถให้ความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และนวัตกรรมต่างๆ ที่นักศึกษาสามารถนำไปต่อยอดในด้านอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานไฟฟ้าและการควบคุม รวมถึงวิศวกรรมการสื่อสารในอนาคตได้อีกด้วย
มหาวิทยาลัยบรูเนล ลอนดอน เปิดสอนหลักสูตรต่างๆ ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ได้แก่ สาขาอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมการบินและอวกาศ ตลอดจนสาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทางเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
ด้วยอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้นักศึกษาสามารถใช้ในการฝึกฝนเทคนิคต่างๆ ตลอดจนร่วมวิเคราะห์และดำเนินการวิจัย และแปลงแนวคิดไปสู่การลงมือปฏิบัติได้ หลักสูตรของมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการทำโครงงานทั้งแบบรายบุคคลและแบบกลุ่ม ซึ่งมักจะเน้นการค้นคว้าวิจัยในหัวข้อใหม่ๆ เพื่อค้นหาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมผ่านการออกแบบ การสร้างสรรค์ และการทดสอบแนวคิดต่างๆ
ตลอดช่วงการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยบรูเนล นักศึกษาจะมีโอกาสพูดคุยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ในงานวันวิศวกรรมศาสตร์ของบรูเนล ซึ่งเป็นนิทรรศการเพื่อแสดงผลงานด้านวิศวกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี งานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักศึกษาในการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชั้นนำและนายจ้างในอนาคต รวมถึงเป็นโอกาสที่นักศึกษาจะได้แสดงถึงผลงานที่เป็นนวัตกรรมและเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในระหว่างที่ศึกษาที่บรูเนลอีกด้วย
ตลอดระยะเวลาในการศึกษาต่อ มหาวิทยาลัยบรูเนลจะให้ความช่วยเหลือศึกษาอย่างเต็มที่และมอบทักษะที่จำเป็นต่อการก้าวสู่ความสำเร็จด้านอาชีพในฐานะวิศวกร เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญา ท่านจะได้รับความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการออกแบบ การคิดเชิงวิเคราะห์ และความสามารถในการสื่อสารหลักการทางวิศวกรรมอย่างมืออาชีพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นทักษะที่จะเพิ่มโอกาสในการทำงานให้แก่นักศึกษา
สร้างเครือข่ายกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวางด้วยหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์
มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ (Cranfield University) จัดว่าเป็นสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมอันดับที่ 5 ในสหราชอาณาจักรและติดท็อป 50 อันดับแรกของโลกโดย QS World Rankings 2021 นักศึกษาจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้โดยผู้บรรยายรับเชิญจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ได้แก่ BAE Systems, Rolls-Royce รวมถึงได้รับการสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และได้ศึกษาผ่านการทำโครงงานรายบุคคลต่างๆ หลักสูตรของแครนฟิลด์ได้รับการพิจารณาอย่างสม่ำเสมอโดยคณะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ นักศึกษาของแครนฟิลด์จะได้รับประโยชน์มากมายจากโอกาสในการสร้างเครือข่ายกับผู้นำในภาคอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรม รวมถึงมีโอกาสในการทำโครงงานที่เป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริงและสามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งหลักสูตรในระดับปริญญาโทของแครนฟิลด์จำนวนมากได้เน้นการพัฒนาต่างๆ ที่มีที่มาจากแนวคิดริเริ่มโดยภาคอุตสาหกรรม โครงงานกลุ่มเหล่านี้ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับนักศึกษาในการฝึกปฏิบัติงานเป็นทีม ซึ่งออกแบบมาเพื่อจำลองสภาพแวดล้อมในการทำงานโดยทั่วไปในภาคส่วนต่างๆ และเพื่อให้นักศึกษาได้สัมผัสกับชีวิตการทำงานในโลกวิศวกรรม
มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกหลายรายการมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ ห้องปลอดเชื้อ เครื่องมืออุปกรณ์การเคลือบที่ใช้อุณหภูมิสูง ห้องจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงพร้อมโต๊ะระบบสัมผัส Samsung SUR40 ห้องปฏิบัติการคอมโพสิตที่มีอุปกรณ์ครบครัน รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการทดสอบแรงที่ศูนย์ Cranfield Impact Centre ที่ได้รับการรับรองจาก FIA (Federation Internationale del’Automobile)
ในฐานะนักศึกษาระดับปริญญาโท ท่านสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ที่หลากหลายเพื่อใช้สำหรับการสร้างแบบจำลองและการจำลองกระบวนการผลิต และยังสามารถใช้ห้องปฏิบัติการในการเชื่อมที่เป็นเลิศ พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์เชื่อมอาร์กแบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและแบบขั้นสูง เมื่อเร็วๆ นี้แครนฟิลด์ได้ทุ่มทุนกว่า 1.6 ล้านปอนด์ในการปรับปรุงห้องสำหรับใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนอีกด้วย
หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษามีการเรียนการสอนหลายรูปแบบ โดยมีการสอนคิดเป็น 40% เพื่อมอบความรู้ที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในสาขาเฉพาะทางของนักศึกษา อีก 20% จะเรียนรู้ผ่านการทำโครงงานกลุ่มเพื่อให้นักศึกษาได้ประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ต่างๆ ในโครงงาน และเตรียมก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน โดย 40% ที่เหลือเป็นการทำวิทยานิพนธ์รายบุคคล ซึ่งนักศึกษาจะมีโอกาสคิดและทำงานในแบบที่ไม่เหมือนใคร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจทำโครงงานร่วมกับพันธมิตรของมหาวิทยาลัยเพื่อเจาะลึกลงไปในหัวข้อเฉพาะที่ท่านสนใจ หรือความท้าทายต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงในภาคส่วนที่ต้องการได้
หลักสูตรทั้งหมดของมหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ได้รับการรับรองโดยสถาบันด้านวิศวกรรมอาชีพ (Professional Engineering Institutions: PEI) ในนามของสมาคมวิศวกรรม (Engineering Council) ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติมและขึ้นทะเบียนเป็นวิศวกรชาร์เตอร์ด (Chartered Engineer: CEng) ได้แก่
- สถาบันวิศวกรเครื่องกล (Institution of Mechanical Engineers: IMechE)
- ราชสมาคมการบิน (Royal Aeronautical Society: RAeS)
- สถาบันวิศวกรรมและเทคโนโลยี (Institution of Engineering & Technology: IET)
- สถาบันด้านการเชื่อม (The Welding Institute: TWI)
- สถาบันด้านวัสดุ แร่ และเหมืองแร่ (Institute of Materials, Minerals & Mining: IOM3)
เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มหาวิทยาลัยฮัลล์
หากท่านสนใจศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์เพื่อปกป้องรักษาโลกและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขอแนะนำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮัลล์ (University of Hull) ซึ่งตอบโจทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่สถาบันและธุรกิจต่างๆ จำนวนมากกำลังมองหาวิธีไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต
ฮัลล์ตั้งอยู่ที่แม่น้ำฮัมเบอร์ ซึ่งเป็นปากน้ำด้านพลังงานของสหราชอาณาจักร และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการศึกษาด้านวิศวกรรมพลังงาน หากท่านศึกษาต่อที่ฮัลล์ ท่านจะสามารถเรียนรู้ผ่านหลักสูตรต่างๆ เช่น หลักสูตรปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมพลังงาน ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่บทบาทเฉพาะทางในอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมพลังงาน นอกจากนี้ ท่านยังสามารถก้าวไปสู่การศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมพลังงานและความยั่งยืนได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ นี่คือโอกาสในการพัฒนาความสามารถและความมั่นใจในการประยุกต์ใช้ความรู้และเทคนิคด้านวิศวกรรม เพื่อแก้ปัญหาด้านอุตสาหกรรมและด้านพลังงานในโลกแห่งความเป็นจริงที่หลากหลาย ซึ่งจะเน้นหนักไปที่การนำความรู้ไปปฏิบัติจริง
ในปี พ.ศ. 2564 มหาวิทยาลัยได้เปิดตัวหลักสูตรใหม่ในระดับปริญญาโทที่น่าตื่นเต้นในด้านเทคโนโลยีพลังงานขั้นสูง โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยที่ยาวนานกว่า 20 ปีในศูนย์เทคโนโลยีพลังงานที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยฮัลล์ หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะผ่านหารืออย่างใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรม ฮัลล์ได้สร้างเครือข่ายในระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับภูมิภาคกับทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการศึกษา ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าหลักสูตรนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย 'ในโลกแห่งความเป็นจริง' จากทั่วทุกมุมโลก ในหลักสูตรนี้ท่านจะได้เรียนรู้ถึงระบบและเทคโนโลยีพลังงานที่จำเป็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ เทคโนโลยีการให้ความร้อนและความเย็นที่ยั่งยืน และเทคโนโลยีพลังงาน 'อัจฉริยะ' ท่านจะมีความเข้าใจในแนวทางที่หลากหลายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเน้นการเรียนรู้เทคโนโลยีและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง ตลอดจนความเชี่ยวชาญในการสร้างแบบจำลองทางกายภาพและเชิงตัวเลขของเทคโนโลยีพลังงานขั้นสูงอีกด้วย
วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้สร้างความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงวิธีกำเนิด จัดเก็บ และใช้พลังงาน ซึ่งการก่อสร้างอาคารได้รับการระบุให้เป็นหนึ่งใน 5 ประเด็นท้าทายหลักที่ต้องได้รับการแก้ไขด้วยนวัตกรรม หากเราต้องการประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการเพื่อปกป้องโลกของเรานี้ ฮัลล์จึงได้พัฒนาหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาพร้อมรับกับความท้าทายดังกล่าว
สังคมไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้หากขาดวิศวกร วิศวกรคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานมากที่สุด เช่น การสื่อสาร การขนส่ง และนวัตกรรมทางการแพทย์ หากท่านมีความสนใจอาชีพวิศวกร ขั้นแรกท่านจะต้องได้รับปริญญาด้านวิศวกรรมศาสตร์ สหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ มีหลายหลักสูตรใช้เวลาเรียนสี่ปี ท่านจะได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทโดยตรงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่มืออาชีพในฐานะวิศวกรชาร์เตอร์ด บางหลักสูตรเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ศึกษาความรู้ด้านวิศวกรรมทั่วไปหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น ก่อนที่จะเลือกความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเฉพาะที่สนใจมากที่สุด นั่นหมายความว่าการตัดสินใจเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากวิธีการสอนด้านวิศวกรรมแตกต่างกันไปในแต่ละสถาบัน เราหวังว่าคู่มือนี้จะเป็นประโยชน์ในการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเลือกสถาบันสำหรับศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยบรูเนล มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ และมหาวิทยาลัยฮัลล์
มหาวิทยาลัยบรูเนล: https://www.brunel.ac.uk
มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์: https://www.cranfield.ac.uk
มหาวิทยาลัยฮัลล์: https://www.hull.ac.uk